
PosiSoft Desktop ซอฟต์แวร์สำหรับดาวน์โหลด, จัดเก็บ, วิเคราะห์ และรายงานข้อมูลการวัด
#PosiSoft Desktop
PosiSoft Desktop จาก DeFelsko Corporation เป็นซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อดาวน์โหลด จัดเก็บ วิเคราะห์ และสร้างรายงานข้อมูลการวัด โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และ Mac โดย ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
จุดเด่นของซอฟต์แวร์
Simple
ผู้ใช้งานสามารถถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องวัด (Gage) เข้าสู่โปรแกรมได้โดยตรงผ่านการเชื่อมต่อ USB หรือ WiFi รวมถึงสามารถนำเข้าข้อมูลจากซอฟต์แวร์รุ่นก่อนหน้า (Legacy Software) ได้อย่างสะดวก
โปรแกรมได้รับการออกแบบให้มีอินเทอร์เฟซที่ใช้ง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้ ช่วยให้ผู้ใช้งานทุกระดับสามารถเรียนรู้และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ซับซ้อน
ภายในโปรแกรมมีเทมเพลตรายงาน (Report Templates) ให้เลือกใช้งาน พร้อมฟังก์ชันแสดงตัวอย่างรายงาน (Preview) ซึ่งจะอัพเดตแบบอัตโนมัติทุกครั้งที่มีการแก้ไขข้อมูล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้องของรายงานได้อย่างแม่นยำก่อนบันทึกหรือพิมพ์จริง
ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลการวัด (Batch Search) ที่จัดเก็บไว้ได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถค้นหาตามชนิดของโพรบ (Probe Type), ชื่อแบตช์ (Batch Name) หรือ หมายเหตุประกอบ (Notes) เพื่อความสะดวกในการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
ผู้ใช้งานสามารถทดลองฟังก์ชันของโปรแกรมได้ทันทีหลังการติดตั้ง
Versatile
โปรแกรมสามารถส่งออกข้อมูลการอ่านในรูปแบบไฟล์ CSV (Comma-Separated Values) เพื่อให้สามารถเปิดและจัดการต่อใน Microsoft Excel หรือโปรแกรมสเปรดชีตอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
ผู้ใช้งานสามารถสร้างชุดการวัดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (Pre-defined Batches) โดยกำหนดภาพประกอบและข้อความแนะนำสำหรับแต่ละจุดวัดได้ล่วงหน้า จากนั้นอัปโหลดไปยังเครื่องวัด PosiTector 6000, 200 และ UTG (รุ่น Advanced) เพื่อช่วยให้กระบวนการวัดเป็นระบบและลดข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงาน
โปรแกรมรองรับการนำเข้าแบบฟอร์ม PDF ที่มีอยู่แล้ว พร้อมความสามารถในการลากและวาง (Drag-and-Drop) ช่องข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ผลการวัดถูกบันทึกและเติมลงในฟิลด์ของเอกสารโดยอัตโนมัติ
ผู้ใช้งานสามารถเลือกภาษาได้หลากหลาย (multi-language support) ได้แก่ อังกฤษ, สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, จีน และเกาหลี
Powerful
โปรแกรมสามารถรวมชุดข้อมูลการวัดหลายแบตช์ (Batches) เข้าด้วยกันเป็นกลุ่มงาน (Jobs) เพื่อให้การจัดการข้อมูลเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายงานที่รวมหลายแบตช์ได้ภายในครั้งเดียว ช่วยประหยัดเวลาและลดความซ้ำซ้อนในการจัดทำรายงาน
รองรับการสำรองข้อมูล (Backup) และซิงค์ (synchronize) ข้อมูล เช่น Jobs, Batches, Readings และเทมเพลตรายงานไปยังระบบคลาวด์ PosiSoft.net โดยข้อมูลสามารถซิงค์ข้ามคอมพิวเตอร์หลายเครื่องได้อย่างปลอดภัยและสะดวก เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกันในทีม หรือการเข้าถึงข้อมูลจากหลายสถานที่
โหมด HiLo (High/Low Limit Mode) เป็นโหมดเปรียบเทียบค่าการวัดกับขีดจำกัดสูงสุดและต่ำสุดที่ผู้ใช้กำหนดไว้เอง โดยผลลัพธ์จะถูกระบุในรายงานอย่างชัดเจน ฟังก์ชันนี้รองรับเฉพาะรุ่น PosiTector 6000, SPG และ UTG
โปรแกรมสามารถสร้างกราฟแสดงผลข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้งานมองเห็นแนวโน้มหรือรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของค่าการวัด (Trends and Cycles) ได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจง่าย ช่วยในการวิเคราะห์คุณภาพผิวเคลือบหรือกระบวนการตรวจสอบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อตัวเครื่อง PosiTector DPM เชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ PosiSoft.net และเปิดใช้งานโหมด Auto Log ระบบจะทำการบันทึกและแสดงกราฟข้อมูลสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เช่น ค่าจุดน้ำค้าง (Dew Point) อุณหภูมิและความชื้น เพื่อช่วยในการตรวจสอบสภาวะการเคลือบผิวอย่างแม่นยำ
Recommended Requirements
สำหรับ Windows : Windows 10 / 11
สำหรับ Mac : macOS 10.15 หรือ newer
รองรับเครื่องมือวัดของ DeFelsko รุ่นปัจจุบัน เช่น PosiTector, PosiTest AT, PosiTest PC

Professional, Custom PDF Reports

โปรแกรมรองรับการสร้างรายงานทั้งแบบรายงานเดี่ยว (Single Batch) และรายงานหลายแบตช์ (Multi-Batch Reports) โดยสามารถรวบรวมข้อมูลจากหลายโพรบหรือเครื่องมือวัดต่างประเภทให้อยู่ในรายงานเดียวกันได้อย่างสะดวก ผู้ใช้สามารถเพิ่มรูปภาพ ภาพหน้าจอ (Screen Capture) โน้ต หรือข้อมูลเสริมอื่น ๆ ลงในรายงาน เพื่อให้รายงานมีความสมบูรณ์และเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
โปรแกรมมาพร้อมฟังก์ชัน Live Preview แสดงผลการจัดรูปแบบรายงานแบบเรียลไทม์ เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีขณะออกแบบรายงาน ช่วยให้การจัดทำรายงานเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว มีเทมเพลตรายงานมาตรฐานให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างรายงานที่ดูเป็นมืออาชีพได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มจัดรูปแบบเองทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบรายงานเองได้อย่างอิสระ เช่น เพิ่มหน้าปก ใส่โลโก้บริษัท หัวกระดาษและท้ายกระดาษ รวมถึงเลือกการแสดงผลข้อมูลเป็นกราฟ แผนภูมิแท่ง หรือค่าการวัดแต่ละจุดตามต้องการ
นอกจากนี้ยังมีเทมเพลตรายงานแบบ 2 คอลัมน์ (2-Column Compact Report Template) ที่ออกแบบมาเพื่อสรุปข้อมูลการตรวจวัดในหน้าเดียว เหมาะสำหรับรายงานที่ต้องการความกระชับแต่ครบถ้วน อีกหนึ่งจุดเด่นคือฟังก์ชัน Drag & Drop สำหรับสร้างรายงานจากแบบฟอร์ม PDF ที่มีอยู่แล้ว ผู้ใช้สามารถนำเข้าไฟล์ PDF เดิม แล้วลากวางช่องข้อมูล (Fields) เพื่อเชื่อมต่อกับผลการตรวจวัดให้โปรแกรมกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มโดยอัตโนมัติ เช่น ชื่อผู้ตรวจ วันที่ตรวจ พื้นที่ หรือค่าการวัดต่าง ๆ ช่วยลดเวลาและเพิ่มความแม่นยำในการจัดทำรายงานอย่างมืออาชีพ
การใช้งาน Prompted Batch Mode
เป็นโหมดการทำงานที่ช่วยให้การตรวจวัด (Inspection) เป็นระบบมากขึ้น โดยสามารถสร้างชุดการวัด (Batch) ที่มีคำแนะนำทีละขั้นบนหน้าจอเครื่องวัดได้ เช่น ข้อความ หรือภาพสำหรับแต่ละจุดวัด ผู้ใช้สามารถสร้าง Batch Template ในโปรแกรม PosiSoft Desktop แล้วอัปโหลดเข้าสู่เครื่องวัด PosiTector เพื่อให้เครื่องแสดงคำแนะนำล่วงหน้าในแต่ละตำแหน่งวัด
สำหรับ PosiTector 6000, PosiTector 200 และ PosiTector UTG (เฉพาะรุ่น Advanced models (serial numbers 784000 and greater)
ขั้นตอนที่ 1
สร้างเทมเพลต Prompted Batch Template
ติดตั้งโปรแกรม PosiSoft Desktop บนเครื่อง PC หรือ Mac (ดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ DeFelsko)
เครื่องวัด PosiTector ต้องเป็นรุ่น Advanced ที่รองรับ Prompted Batch Mode (PosiTector 6000, 200, UTG)

ขั้นตอนที่ 2
เปิดโปรแกรม PosiSoft Desktop > ไปที่เมนู File > เลือก New Prompted Batch Template

ขั้นตอนที่ 3
กรอก Gage Prompt : ข้อความจะแสดงบนหน้าจอเครื่องวัด PosiTector ขณะวัด
กรอก Report Note : ข้อความจะบันทึกในรายงาน (ไม่ขึ้นบนหน้าจอเครื่อง)
คลิก Browse เพื่อใส่รูปภาพ (สามารถใส่รูปหลายรูปในเทมเพลตได้) รองรับไฟล์ภาพ : JPEG, PNG, GIF


ขั้นตอนที่ 4
หลังจากอัปโหลดรูปแล้ว ให้คลิกที่รูปภาพเพื่อระบุตำแหน่งการวัดด้วยวงกลมสีแดง (red circle) ใช้ปุ่ม Zoom เพื่อขยายหรือย่อรูปภาพตามความต้องการ จากนั้นกด OK เทมเพลตจะถูกบันทึกในโปรแกรม PosiSoft Desktop

ขั้นตอนที่ 5
การส่งออกเทมเพลต Prompted Batch
ไปที่เมนู Export > เลือก Prompted Batch Template to Gage


ขั้นตอนที่ 6
โปรแกรม PosiSoft Desktop จะทำการเชื่อมต่อเครื่องวัด PosiTector กับคอมพิวเตอร์ จากนั้นเทมเพลตจะอยู่ในหน่วยความจำของเครื่องวัด PosiTector Advanced

ขั้นตอนที่ 7
เปิดเทมเพลตและสร้างชุดการวัดบนเครื่องวัด PosiTector
ไปที่เมนู Memory > เลือก New Prompted > เลือกเทมเพลตที่ส่งขึ้นไป
เมื่อตั้งค่าแล้ว แต่ละชุดการวัดที่สร้างด้วยเทมเพลตจะใช้ชื่อ TemplateName แล้วตามด้วยเลขลำดับ เช่น TemplateBatch1, TemplateBatch2



ขั้นตอนที่ 8
การแก้ไขเทมเพลต Prompted Batch
ไปที่เมนู Edit > เลือก Prompted Batch Template > เลือกเทมเพลตที่ต้องการ > แก้ไข > OK





ขั้นตอนที่ 9
ไปที่เมนู Edit > เลือก Prompted Batch Template > เลือกเทมเพลตที่ต้องการ > ปุ่ม Delete > OK




ขั้นตอนที่ 10
การออกจากโหมดการทำงาน Prompted Batch Mode
บนเครื่องวัด PosiTector ให้ไปที่เมนู Memory > เลือก Close เพื่อออกจาก Prompted Batch Mode


การใช้งาน Custom Fields
เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สร้างฟอร์มรายงานที่ปรับแต่งได้เอง (กำหนดช่องข้อมูลต่าง ๆ) เช่น labels, notes, checkboxes, ค่าการวัด เป็นต้น ผู้ใช้สามารถนำเข้าไฟล์ PDF แบบฟอร์มที่มีอยู่มาเป็นพื้นหลัง แล้วลาก-วาง (drag-and-drop) ช่อง Custom Fields ลงไปในพื้นที่ที่ต้องการ เพื่อให้ข้อมูลถูกเติมอัตโนมัติในรายงาน
ใช้ได้กับเครื่อง PosiTector ทุกรุ่นที่เป็นรุ่น Current / รุ่นล่าสุด
ขั้นตอนที่ 1
สแกนเอกสารต้นฉบับ เป็นไฟล์ PDF ด้วยความละเอียดระดับปานกลาง (แนะนำ 300 dpi)
ตรวจสอบขนาดกระดาษ ให้ตรงกับการตั้งค่าในโปรแกรม เช่น A4 หรือ Letter
เตรียมข้อมูลตัวอย่างสำหรับทดสอบการใช้งาน เช่น ไฟล์ CSV หรือข้อมูลที่บันทึกจากเครื่องวัดจริง
เปิดโปรแกรม PosiSoft Desktop เพื่อเตรียมสร้าง Report Template ใหม่

ขั้นตอนที่ 2
สร้าง Report Template
ไปที่เมนู New > ตั้งชื่อเทมเพลต เช่น “Daily Inspection Report”

ขั้นตอนที่ 3
Custom Fields
เลือกประเภทของ Custom Fields : Job Custom Fields Designer หรือ Batch Custom Fields Designer
Job Custom Fields Designer : สำหรับกำหนดช่องข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานโดยรวม เช่น ชื่อลูกค้า, ที่ตั้งงาน, inspector
Batch Custom Fields Designer : สำหรับกำหนดช่องข้อมูลเฉพาะของแต่ละชุดการวัด เช่น ค่าที่ได้จากโพรบหนึ่งชุด

ขั้นตอนที่ 4
นำเข้า PDF เป็นพื้นหลัง (Overlay)
โปรแกรมจะแสดงหน้า PDF เป็นภาพพื้นหลัง ถ้า PDF มีหลายหน้า ให้เลือกหน้าที่จะออกแบบ
เลือกไฟล์ PDF ที่เตรียมไว้ และยืนยัน


ขั้นตอนที่ 5
เพิ่มฟิลด์ (Fields) ลงบน PDF
เลือกประเภทฟิลด์ เช่น Label, Text, Checkbox, Job Name, Job Note จากนั้นคลิกบนตำแหน่งในไฟล์ PDF ที่ต้องการวางฟิลด์ แล้วลากเมาส์เพื่อกำหนดขนาดของกล่อง

ขั้นตอนที่ 6
กำหนดคุณสมบัติของแต่ละฟิลด์ (Fields) ให้ครบถ้วนในทุกช่อง


ขั้นตอนที่ 7
กด Save Template

ขั้นตอนที่ 8
การทดสอบเทมเพลต
เลือกตัวอย่าง Batch > แล้วให้โปรแกรมสร้างรายงานตัวอย่าง (Preview) > ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่
ถ้าตำแหน่งเบี้ยวหรือไม่ถูกต้อง ให้กลับไปแก้ตำแหน่งหรือขนาดฟิลด์ แล้วทำการทดสอบซ้ำอีกครั้ง


คำแนะนำในการตั้งค่า
เวลาผูกฟิลด์กับข้อมูลการวัด ให้ตั้งชื่อฟิลด์แบบสื่อความหมายและสม่ำเสมอ (เช่น Coating_A_Avg) เพื่อให้จัดการเทมเพลตหลายเวอร์ชันได้ง่าย
ตรวจตำแหน่ง overlay ให้แน่นอน (test export ไปยัง PDF แล้วตรวจดูว่าตรงตำแหน่ง) ถ้าใช้แบบฟอร์มสแกนระวังขนาดหรือการจัดหน้าไม่ตรงกัน
ถ้าต้องการรายงานหลายหน้า หรือรวบรวมหลาย Batch ให้เตรียม section แยกสำหรับ summary และ detail
ตรวจสอบสิทธิ์การแชร์เทมเพลต หากต้องส่งให้ทีมอื่นใช้
ข้อจำกัด
คุณภาพหรือขนาดของ PDF พื้นหลังจะมีผลต่อความแม่นยำของตำแหน่งการวาง field ควรใช้ PDF ที่มีขนาดหรือสัดส่วนตรงกับการตั้งค่าในโปรแกรม
ถ้าชุดข้อมูลไม่ครบจะมีช่องว่างในรายงาน
รูปแบบการส่งออก (เช่น CSV, PDF) และการรวมข้อมูลจากหลายเครื่อง อาจขึ้นกับรุ่นซอฟต์แวร์และสิทธิ์การใช้งาน
LEGA Corporation Ltd.
1/28-29 อาคารบางนาธานี ชั้น 14 เอ, บี1 ซอยบางนา-ตราด 34 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
Working Hour: Monday - Friday 8:30 am. - 17:30 pm.
TEL : 02-746-9933 ,Fax : 02-746-9940
LINE ID: @lega
กด 1 ฝ่ายขาย
กด 35 ฝ่าย Service

Miss. Patcharin Jodkoh
Marketing-Admin